สมัยเมื่อเจ้าพระยามหานครไม่ปรากฏพระนามองค์และนามเมืองครององค์หนึ่ง แล่นสำเภาบรรทุกทองคำและทรัพย์มีค่ามุ่งมาหาหาดทรายแก้วเมืองนครดอนพระ เพื่อสมทบกิจบุญสร้างเจดีย์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วมีเหตุสำเภาโดนมรสุมระหว่างทางต้องแล่นสำเภาเข้าแอบเกาะ แต่บุพกรรมทำให้เรือเกยหินโสโครกแตก ต้องลำเลียงทองคำและทรัพย์สินที่ตั้งใจจะนำไปสมทบสร้างเจดีย์ใหญ่เป็นพุทธบูชาเข้าพักไว้ในถ้ำบนเกาะ แล้วระดมแรงกันสร้างเรือลำใหม่เพื่อลำเลียงทองคำและทรัพย์สินพุทธบูชาต่อไปยังหาดทรายแก้วให้จงได้ ซึ่งเป็นเหตุให้เกาะซึ่งภายหลังกลายเป็นแผ่นดินใหญ่ได้
ชื่อเขาชุมทองนั้นบรรดาวิญญาณผู้ข้องวัฏฏะหลายหมื่นหลายแสนดวง ที่ติดตามสำเภาบรรทุกทองคำและเหล่ามนุษย์เป็นๆ มา เพื่อร่วมกระทำพุทธบูชาทักษิณาวรรตสลัดวงจรเวียนว่ายตายเกิดที่หาดทรายแก้วด้วย ก็พรั่งพรูขึ้นบกสมทบด้วยมนุษย์พุทธศาสนิกเรือแตกคลาคล่ำไปทั้งเกาะ เทดาเขาชุมทองผู้สถิตเป็นใหญ่อยู่ ณ ที่นั่นมาช้านานก็พลันสิ้นสุข เพราะความกาหลวุ่นวายของมนุษย์และอมนุษย์เหล่านั้นแม้เทดาเขาชุมทองจะทรงอิทธิฤทธิ์เหนือกว่า สามารถขจัดขัดขวางเสกสรรความสงบให้คงมีที่เกาะนั้นเหมือนเดิมได้โดยง่าย แต่ความกาหลของมนุษย์และอมนุษย์เรือแตกเหล่านั้นก็เป็นไปเพราะความศรัทธาเพื่อสั่งสมบารมีในพระพุทธศาสนา ถ้าขัดขวางทางอันจะสิ้นสุดวัฏฏะ ซึ่งเทดาเขาชุมทองเองก็มุ่งหวังและอุตส่าห์สั่งสมบารมีมาช้านานตามวิสัยเทดาในพระพุทธศาสนาทั่วไปก็พลันจะใช่เหตุ ครั้นจะส่งเสริมหรือ ตนก็พ้นอามิสบูชาถึงขั้นปฏิบัติบูชาแล้ว ขืนเข้ายุ่งด้วยเห็นจะไม่พ้นวุ่นวาย
เมื่อพิจารณาโดยรอบคอบแล้ว ก็เหลือหนทางอยู่เพียงทางเดียวเท่านั้น คือหลีกเร้น ซึ่งจะให้ความสงบสุขและเป็นการดีด้วยกันทั้งสองฝ่ายคิดดังนั้นแล้ว เทดาเขาชุมทองจึงระเห็จออกสืบเสาะแหล่งสถิตใหม่โดยไม่รอช้า วนไปเวียนมาหลายตระหลบก็เห็นว่าเขาแดง(ปัจจุบันอยู่ในหมู่ที่ 3 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์) มีห้วยละหารธารถ้ำ เป็นทำเลสงบร่มเย็น เหมาะต่อการสถิตของเทดาเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาแดงมีสถิตอยู่แล้วเขาเดียวจะมีเทดาสององค์ไม่มีธรรมเนียม เพราะจะเกิดวุ่นวายด้วยชิงกันเป็นใหญ่กันขึ้นอีกแม้ตนจะมีฤทธิ์เดชเหนือกว่าเทดาเขาแดง อาจข่มบังคับเอาด้วยอิทธิฤทธิ์ แต่ก็ไม่ใช่วิสัยที่เทดาจะพึงกระทำ จะเจรจาโดยสันติวิธี เทดาเขาแดงก็เห็นจะไม่ยอมด้วยดีเป็นแน่
แต่อย่างไรก็จำจะต้องหาเหตุขับเทดาเขาแดงให้ไปอยู่เสียที่อื่นโดยวิธีนิ่มนวลให้จงได้ เพื่อไม่ให้มนุษย์ดูหมิ่นนินทาต่อภายหลังเทดาเขาแดงนั้น เป็นที่ทราบอื้อฉาวไปทั้งในหมู่มนุษย์และอมนุษย์ว่า มีนิสัยอยู่อย่างหนึ่ง คือชอบเล่นสะบ้าพนัน และฝีมือก็ไม่ดีเด่นอะไรนักด้วย เพราะมักจะเป็นผู้แพ้มากกว่าชนะ แพ้แม้แต่กับมนุษย์ธรรมดา เป็นที่อับอายขายหน้าเทวดาด้วยกันอยู่เสมอ เทดาเขาชุมทองได้ถือเอาจุดอ่อนนี้เป็นเล่ห์ หาเหตุท้าเทดาเขาแดงเล่นสะบ้าพนันกัน โดยกำหนดเงื่อนไขว่า ถ้าเทดาเขาชุมทองแพ้ จะแบ่งฤทธิ์ให้เทดาเขาแดงครึ่งหนึ่ง และถ้าเทดาเขาแดงแพ้ เทดาเขาแดงจะต้องสละเขาแดงทั้งเขาให้เทดาเขาชุมทองสถิตเพียงองค์เดียว
อีกหนึ่งสถานที่ ที่อยู่ใกล้เคียงกันและเป็นที่รู้จักของอ.ร่อนพิบูลย์ คือสถานีชุมทางเขาชุมทอง สถานีชุมทางเขาชุมทอง ตั้งอยู่ที่อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างขึ้นในพุทธศักราช 2457 เพื่อเป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง และสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ และใช้เป็นสถานีเติมน้ำและฟืนสำหรับรถจักรไอน้ำจนถึงพุทธศักราช 2525 เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ยกเลิกการใช้รถจักรไอน้ำ
เดิมเรียกว่าสถานีรถไฟสามแยกนคร ต่อมาในพุทธศักราช 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 มีพระบรมราชานุญาตให้เปลี่ยนชื่อเป็นสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองตามคำแนะนำของกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง ปัจจุบัน สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองเป็นสถานีชั้น 2 ภายในย่านสถานีประกอบด้วยอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม คือ อาคารสถานีรถไฟ หอสัญญาณประแจกล บ้านพักพนักงานการรถไฟ อาคารที่ทำการแขวงบำรุงทาง และห้องแถวไม้ให้เช่าของการรถไฟแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของสถานีรถไฟยังมีชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมตั้งอยู่ด้วยอาคารสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวหลังคาแฝดวางขนานไปกับทางรถไฟประกอบด้วยส่วนสถานี และส่วนชานชาลา ผังพื้นส่วนสถานีเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 1 ช่วงเสา ยาว 5 ช่วงเสา ประกอบด้วยห้องควบคุมการเดินรถ ห้องทำงานนายสถานี ห้องขายตั๋ว และโถงพักคอย หลังคาส่วนสถานีเป็นหลังคาจั่วผสมปั้นหยา
ส่วนชานชาลาเป็นหลังคาจั่ว ทั้งหมดมุงด้วยกระเบื้องลอนคู่ ประตูและหน้าต่างเป็นบานลูกฟักไม้ เหนือบานประตูและหน้าต่างเป็นเกล็ดไม้ระบายอากาศ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมคล้ายกับอาคารสถานีรถไฟกันตังอาคารสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเนื่องจากได้รับการออกแบบที่สอดคล้องกับการใช้สอยและสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นในประเทศไทย รวมทั้งความงามที่มีการผสมผสานศิลปะแบบตะวันตก โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดูแลรักษาอาคารสถานีรถไฟให้อยู่ในสภาพที่ดี และยังคงบทบาทสำคัญในการรองรับผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า โดยในพุทธศักราช 2555 สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ได้มอบรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นให้กับอาคารสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง
บทความโดย อ.ปริญญา ชูแก้ว